การจัดฟัน คืออะไร มีกี่แบบ ครบทุกเรื่อง ที่คนยังไม่รู้ จัดฟันควรรู้ !
ฟันหน้ายื่น ฟันซ้อน ฟันเก ยิ้มไม่มั่นใจ กัดฟันไม่ได้ ให้หมดไปได้ ปัจจุบันการจัดฟันมีราคาที่ค่อนข้างหลากหลาย สามารถเลือกชนิดเครื่องมือได้ตามความเหมาะสม ตาม life style ของแต่ละบุคคล โดยคนไข้สามารถอ่านรายละเอียด และราคาจัดฟันได้ด้านล่างนี้
การจัดฟันครั้งแรกต้องมีขั้นตอนการเตรียมตัว เช่น ขั้นตอนการตรวจสภาพ ช่องปาก รวมไปถึงขั้นตอนการจัดฟัน และตรวจรักษา ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้อง ใช้ระยะเวลาและความเข้าใจ ดังนั้น การจัดฟันครั้งแรกต้องมีการเตรียม ตัวทั้งร่างกาย จิตใจ และค่าใช้จ่ายให้พร้อม ส่วนรายละเอียดขั้นตอนการจัดฟัน ราคาจัดฟันเริ่มต้นเตรียมตัวก่อนจัดฟัน จะมีอะไรบ้าง คนจัดฟันครั้งแรกไม่ต้องกังวล ตามไปดูกันเลย
ขั้นตอนการจัดฟันครั้งแรก
ก่อนจัดฟันถามใจตัวเองสักนิด ว่าพร้อมจัดฟันจริงๆไหม เพราะขั้นตอนการจัดฟันต้องใช้เวลานานอย่างน้อยก็ 2 ปี เพราะต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องมีเวลามาพบทันตแพทย์ทุก เดือน และทุกครั้งที่หมอนัด ตัดสินใจแล้ว ลุยต่อเลย
เมื่อตัดใจว่าจะจัดฟันแล้ว เข้าไปปรึกษาทันตแพทย์ได้เลยค่ะ คุณหมอจะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดฟัน ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน และแผนการจัดฟัน
ตรวจสุขภาพในช่องปากและทำการรักษาความผิดปกติต่าง ๆ หลังจากเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากและเอ็กซเรย์เพื่อวิเคราะห์ โครงสร้างกระดูกใบหน้าขากรรไกรและลักษณะของฟัน เพื่อวางแผน ในการจัดฟันและรักษา พร้อมทั้งจะประเมินค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน ทั้งหมดเพื่อแจ้งให้คนไข้ได้ทราบ
ฟัน หลังจากที่ตกลงร่วมกับทันตแพทย์แล้วว่าจะเลือกจัดฟันแผนไหนแล้ว ทันตแพทย์จะแจ้งให้คนไข้ทราบว่าจะต้องถอนฟันซี่ไหนบ้าง และเคลียร์ช่องปากให้สะอาดก่อนการติดเครื่องมือจัดฟัน
ช่วงแรกจะรู้สึกระคายเคืองเพราะยังไม่ค่อยชินกับลวดหรือเครื่องมือจัดฟัน และอาจจะรู้สึกปวดและเสียวฟัน ซึ่ง อาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นภายในสัปดาห์แรก
จัดฟันครั้งแรกราคาเริ่มต้นเสียเท่าไหร่
ราคาจัดฟันเริ่มต้นประมาณ 7,000บาท เพื่อเป็นค่าใช้ จ่าย เช่น พิมพ์ฟัน , การถ่ายรูปในช่องปาก , การ x-ray ประเมิน โครงสร้างใบหน้า , การ X-ray เช็คฟันผุ
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ขึ้นกับแต่ละบุคคลนะคะ (การขูด หินปูน ....บาท, อุดฟันเริ่มต้นด้านละ 1,000-1,200บาท , ถอนฟัน เริ่มต้น 700-1,000 บาท ,ฝ่าฟันคุด 1,000-4,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับสุขภาพ ในช่องปากของแต่ละคน ซึ่งจะมีปัญหาที่ต่างกัน
ติดเครื่องมือบน-ล่างจัดฟันครั้งแรกประมาณ 5,000 บาท (สำหรับแบบเหล็กธรรมดา) และทยอยจ่ายรายเดือนทุกเดือน จนครบกำหนดแผนการรักษา หากเครื่องมือหลุดก็จะมีค่าเครื่องมือ 500 – 1,000 บาท
เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นจะเลือกการจัดฟันวิธีนี้ ซึ่งจะเป็นการจัดฟันโดยการติดเครื่องมือแบบโลหะไว้ที่ผิวด้านหน้าของฟัน ใส่ลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยางโอริง (O-ring) สีสันสดใสรัดตัวเครื่องมือจัดฟันให้ติดกับลวดจัดฟัน ทำให้การจัดฟันติดแน่นและต้องมีการปรับเครื่องมือทุก ๆ เดือน
การจัดวิธีนี้จะเป็นการติดเครื่องมือที่ทำด้วยวัสดุที่เป็นโลหะ ผิวเรียบเป็นมันวาว ทำให้คราบอาหารและจุลินทรีย์ติดได้ยากกว่าวัสดุชนิดอื่นและยังเป็นการติดด้านนอกของฟัน จึงทำให้การทำความสะอาดได้ง่าย สะดวกขึ้น ราคาไม่แพง ถือว่าเป็นการจัดฟันราคาค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าตัวอื่น ระยะเวลาในการจัดฟัน 2 ปีขึ้นไป
การจัดฟันแบบโลหะเหมาะกับนักเรียน นักศึกษา ที่มีงบประมาณจัดฟันจำกัด และผู้ที่มีเวลาสามารถมาพบทันตแพทย์ได้บ่อย ๆ
1. ช่วยให้ฟันที่เก ซ้อน ห่าง เรียงตัวสวยงามเป็นระเบียบตามต้องการ
2. ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ทำให้บุคลิกภาพดีขึ้น กล้าพูด กล้าพบปะกับผู้คนมากขึ้น
3. ช่วยทำให้การเคี้ยวอาหารดีขึ้น และการสบฟันดีขึ้น
4. ช่วยทำให้สุขภาพปากและฟันดีขึ้น เพราะทำความสะอาดเข้าถึงทุกซี่ จึงทำให้ฟันผุน้อยลง
5. ช่วยให้กลิ่นปากลดลง เพราะทำความสะอาดช่องปากทั่วถึง
6. ช่วยปรับรูปให้ดูเรียวขึ้น
1. จะรู้สึกตึงๆปากและเจ็บในช่วงจัดฟันและช่วงการเคลื่อนของฟัน
2. ช่วงที่จัดฟันอยู่จะทำความสะอาดฟันยากกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีกลิ่นปากและฟันผุได้
3. หลังจัดฟันก็ยังต้องใส่รีเทนเนอร์
4. พบทันตแพทย์บ่อย และใช้เวลานาน 1-3 ปี อยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล
5. ค่าใช้จ่ายสูง ถึงแม้เทียบการจัดฟันแบบอื่นจะถูกกว่าก็ตาม
จัดฟันแบบโลหะพบเห็นได้บ่อย และยังคงได้รับความนิยม ด้วยข้อดีที่นอกจากช่วยแก้ปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ เช่น ฟันเก ฟันซ้อน ฟันยื่น ฟันห่าง ฟันล้ม ให้ฟันกลับมาเรียงสวยเป็นระเบียบ สามารถสบฟันหรือบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจแล้ว การจัดฟันแบบโลหะยังมีราคาถูกกว่าการจัดฟันประเภทอื่น ๆ ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมเลือกจัดฟันแบบโลหะ
เป็นนวัตกรรมการจัดฟันสมัยใหม่ “ดามอน” เป็นชื่อยี่ห้อของเครื่องมือจัดฟันติดแน่นแบบไม่รัดยาง พัฒนาโดยทันตแพทย์จัดฟันชาวสหรัฐอเมริกาชื่อ ดไวต์ เดม่อน (Dr. Dwight Damon) เป็นนวัตกรรมที่ถูกยอมรับและได้รับการพิสูจน์แล้วด้วยผลงานวิจัยทางคลินิกในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ว่าช่วยปรับปรุงใบหน้าให้ดูดีขึ้น ลดความจำเป็นที่ต้องถอนฟันเพื่อการจัดฟันและการใช้เครื่องมือจัดฟันนอกปากให้น้อยลงครับ จุดเด่นของการจัดฟันดามอนอยู่ที่การทำงานของเครื่องมือจัดฟัน เพราะมี sliding bracket เป็นวัสดุติดบนผิวฟัน ผสมผสานกับการใช้ลวดจัดฟัน space-age archwires ชนิดพิเศษ เป็นลวดรุ่นใหม่ผลิตจากวัสดุทันสมัย ลื่นเรียบ สามารถให้แรงได้นุ่มนวล ต่อเนื่องและยาวนาน ไม่สะดุด สามารถจัดฟันเคสที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย ช่วยขจัดความยุ่งยากในการมัดลวดจัดฟันด้วยยางจัดฟันที่เสื่อมสภาพง่าย หรือลวดมัดฟันที่มักทิ่มแทงเนื้อเยื่อรอบข้าง ลดแรงเสียดทาน สามารถบังคับการเคลื่อนตัวของฟันได้คล่องตัว ทำให้สามารถเคลื่อนตัวฟันไปตำแหน่งที่ต้องการได้เร็วกว่าการจัดฟันทั่วไป โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์ทุก ๆ เดือน ลักษณะของแบล็คเก็ตแต่ละวิธีแตกต่างกัน ลักษณะเฉพาะของแบล็คเก็ตแบบดามอน คือ self ligate bracket หรือลักษณะบานล๊อคเปิดและปิด แทนการใช้ยางที่เป็นแรงดึงและยึดติดกับลวดเหล็ก ทำให้คนไข้ไม่ต้องทนเจ็บกับการดึง ช่วยให้รู้สึกสบายและไม่เจ็บปวดมากเหมือนกับการจัดฟันแบบธรรมดา เนื่องจากว่าการจัดฟันแบบดามอนมีบานล็อคเปิดและปิด (Ligatures) จึงไม่มียางที่ใช้ยึด ซึ่งการที่ไม่มียางอยู่ทำให้เกิดคราบหินปูนได้น้อยลง สามารถทำความสะอาดได้อีกด้วย จัดฟันแบบดามอน แตกต่างกับการจัดฟันแบบอื่น อย่างไร? เมื่อเปรียบเทียบการจัดฟันดามอนกับการจัดฟันธรรมดา การจัดฟันแบบดามอนได้รับการรับรองจากทันตแพทย์แล้วว่าช่วยให้ฟันเคลื่อนที่เร็ว โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้
การจัดฟันแบบดามอน แบล็คเก็ตจะเป็นสีโลหะล้วนหรือสีใส ต่างจากแบล็คเก็ตการจัดฟันแบบโลหะธรรมดาที่มียางสีสันสดใส ที่ทำหน้าหน้าที่รัดลวดกับแบล็คเก็ตเอาไว้ และแบล็คเก็ตการจัดฟันดามอนจะสามารถเปิด-ปิดด้วยคลิปล็อคหรือบานล๊อคเอาไว้ล็อกลวด แต่การจัดฟันธรรมดาจะใช้ยางสี ๆ เอาไว้รัดลวดกับแบล็คเก็ต ซึ่งมีข้อเสียคือมีการเสียดสี และต้องเปลี่ยนยางอยู่บ่อย ๆ
การจัดฟันแบบธรรมดาจะต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อย ๆ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อมาเปลี่ยนยาง แต่การจัดแบบดามอน ด้วยที่ตัวแบล็คเก็ตบานล๊อคเอาไว้ล็อกลวดโดยไม่ต้องกห่วงเรื่องยางที่เสื่อมสภาพได้เร็ว จึงสามารถทิ้งระยะห่างการพบทันตแพทย์ได้ 1 เดือนครึ่ง-2 เดือน
การจัดฟันดามอนจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันน้อยกว่า เพราะว่าฟันสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า ลวดพาฟันเคลื่อนที่ได้แบบลื่นไหล เพราะไม่มีแรงกด แรงรัด แรงเสียดทานจากยางที่รัดเหมือนการจัดแบบธรรมดาที่เคลื่อนที่ได้น้อย และเคลื่อนที่ได้จำกัด
การจัดฟันแบบดามอน มี 2 ประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. จัดฟัน Damon Q : เป็นการจัดฟันเป็นเครื่องมือชนิดสีเงิน
2. จัดฟัน Damon clear : เป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือชนิดสีเหมือนเนื้อฟัน
จัดฟัน Damon clear เป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือชนิดสีใสแบบไม่รัดยาง ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วย ทำให้เคลื่อนฟันได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการจัดฟันแบบติดแน่นชนิดอื่น รวมถึงความสวยงาม เพราะใช้วัสดุพิเศษ ที่เรียกว่า ดามอนชนิดใส Damom clear braces ส่งผลทำให้ฟันเคลื่อน ตัวตามต้องการ และทำความสะอาดได้ง่าย การจัดฟันแบบดามอนจึงทำให้คนไข้มาพบทันตแพทย์น้อยลงกว่าการ จัดฟันทั่วไป นอกจาก Damon Clear ที่เป็นการจัดฟันชนิดใส สีเหมือนฟัน เครื่องมือจัดฟันแบบใสที่เป็นที่นิยม ยังมีอีก 2 เครื่องมือ คือ
• จัดฟันแบบใส invisalign การจัดฟันแบบถอดได้ ที่ดารานิยมทำกัน
• จัดฟันเซรามิก เครื่องมือจัดฟันชนิดสีใส แบบติดแน่น
ทั้ง 2 ประเภทเป็นแบบไม่มีรัดยาง ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยทำให้เคลื่อนฟันได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการจัดฟันแบบติดแน่นชนิดอื่นครับ รวมถึงยังมีความสวยงาม เพราะใช้วัสดุพิเศษ ส่งผลทำให้ฟันเคลื่อนตัวได้ตามต้องการ และทำความสะอาดได้ง่ายกว่า
1. ปรึกษาทันตแพทย์ ตรวจวินิจฉัยโครงสร้างฟัน ทำประวัติก่อนการจัดฟัน ได้แก่ พิมพ์ปาก ถ่ายรูป และถ่าย x-ray ทราบข้อดี-ข้อเสีย เกี่ยวกับการจัดฟันดามอน และวิธีการจัดฟันแบบอื่นเพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ
2. เคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน เช่น ขูดหินปูน ถอนฟัน อุดฟัน ผ่าฟันคุด เป็นต้น
3. นัดหมายติดเครื่องมือจัดฟัน
4. หลังจากติดเครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์จะนัดปรับลวดประมาณ 1 เดือนครึ่ง-2 เดือนครั้ง
5. เมื่อจัดฟันเสร็จทันตแพทย์จะถอดเครื่องมือจัดฟัน แล้วจะพิมพ์ฟันทำรีเทรนเนอร์ เพื่อใช้คงสภาพฟัน ซึ่งคนไข้ควรใส่ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อไม่ให้ฟันเคลื่อนกลับไปตำแหน่งเดิมครับ
จัดฟันแบบใส invisalign เป็นการจัดฟันแบบใส ที่สามารถถอดได้ และถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคลด้วยระบบคอมพิวเตอร์โดยแสดงผลออกมาแบบวิดีโอ 3D โดยการจัดฟัน invisalign จะทำให้ฟันของคุณเรียงตัวสวยโดยที่คนอื่นไม่รู้ ซึ่งมีความแตกต่างจากการจัดฟันแบบเหล็กทั่วไปคนไข้สามารถที่จะศึกษาหรือดูการรีวิวจัดฟันใสได้ที่ smile and co สำหรับคนไข้ที่อยากจัดฟันแบบใส ต้องการแก้ปัญหาฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง ปัญหาการสบฟัน หรือขากรรไกรล่างยื่น ที่มีเครื่องมือใส สวยงาม เหมือนไม่ได้จัดฟันอยู่ คุณหมอได้เตรียมข้อมูลการจัดฟันแบบใส invisalign ไว้อย่างครบถ้วนในบทความนี้แล้วค่ะ
เครื่องมือ จัดแบบฟันใส Invisalign เป็นเครื่องมือจัดฟันแบบใสที่ถอดได้ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้ innovation ของเครื่องมือแบบถอดได้ ที่เรียกว่า SmartTrack technology ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปเดิมได้ (shape memory) แม้จะมีฟันที่ซ้อนเกมาก นอกจากนี้ตัวเครื่องมือสามารถส่งผ่านแรงชนิดเบาแบบต่อเนื่อง (light continues force) ทำให้การเคลื่อนฟันเกิดขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ โดยแรงจากเครื่องมือจะส่งผ่านตัว attachment หรือปุ่มบนฟัน ที่จะคอยควบคุมทิศการเคลื่อนฟันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เกิดผลลัพธ์ที่คาดคะเนได้
เครื่องมือตั้งแต่ 15 ชิ้นขึ้นไป เหมาะกับเคสที่มีความซ้อนเกค่อนข้างมาก มีความซับซ้อน ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
เครื่องมือจัดฟัน 7-14 ชิ้น เหมาะกับเคสที่เคยจัดฟันมาแล้ว มีการซ้อนเกเพียงเล็กน้อย หรือจัดแล้วแต่ไม่ใส่ retainer ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 4 เดือน
เครื่องมือจัดฟัน 7 ชิ้น เหมาะกับเคสที่เคยจัดฟันมาแล้ว มีการซ้อนเกเพียงเล็กน้อย ทัตแพทย์จะช่วยเรียงฟันให้เข้ารูปเป็นปกติ โดยใช้ เครื่องมือจัดฟันแบบใส invisaligni7 ใช้เวลาในการจัดฟันไม่นานประมาณ 2-3 เดือน
การจัดฟันแบบใส อินวิสไลน์ (invisalign) ช่วยสร้างรอยยิ้มของคุณให้มีค่า อย่าปล่อยให้ปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง ทำลายความมั่นใจ การจัดฟันแบบใส กำลังเป็นที่นิยม และมีหลายแบบ หลายราคาให้เลือก และยังเข้ากับ life style ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องมีกิจกรรม พบปะผู้คน ข้อดีของการจัดฟันแบบใส คือ คนอื่นจะดูไม่ออกคุณกำลังใส่เครื่องมือจัดฟันอยู่ จึงสามารถพูด ยิ้ม ได้อย่างเต็มที่ และยังเสริมบุคลิกภาพให้เกิดความมั่นใจอีกด้วย
เนื่องจากตัวเครื่องมือ การจัดฟัน invisalign มีความใส สามารถถอดเข้าถอดออกได้ จึงเหมาะกับบุคคลหลายประเภท
• ดารา นักแสดง ผู้บริหาร แอร์โฮสเตส หรือกลุ่มอาชีพที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือชัด
• ผู้ใหญ่ที่อยากเริ่มจัดฟัน
• วัยเด็กที่อยากเริ่มจัดฟัน ซึ่งตัวเครื่องมือสามารถถอดเข้าออกได้ จึงสามารถแปรงฟันได้ปกติ เสี่ยงฟันผุลดลง
• ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาเดินทางมาพบทันตแพทย์ เช่น อยู่ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ
• ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการถอนฟัน โดยอาศัยวิธีการตะไบฟัน หรือขยายฟันออกด้านข้าง ในบางเคส
• ผู้ที่ต้องการ การจัดฟันที่กระทบ life style เดิมมากที่สุด ซึ่งการจัดฟัน Invisalign สามารถถอดออกมารับประทานอาหารได้ โดยไม่มีข้อห้ามหลีกเลี่ยงอาหารเหนียวและแข็ง รวมถึงสามารถถอดออกมาแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ปกติ
ปัจจุบันมีคลินิกทันตแพทย์ที่ให้บริการจัดฟันแบบใสมากมาย ก่อนที่จะตัดสินใจเราควรที่จะสอบถามกับแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ โดยเรา Dr.Day dental clinic เองก็ยินดีที่จะให้คำปรึกษาเรื่องจัดฟัน ฟรี ! กับคุณหมอเฉพาะทางจัดฟัน ได้รับการรับรองเป็นทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจัดฟัน
1. ปรึกษากับทันตแพทย์เบื้องต้น ทันตแพทย์จะทำการตรวจสภาพฟัน ถ่ายรูป x-ray และพิมพ์ฟันด้วยวัสดุ silicone หรือ scan ดิจิตอล เพื่อสร้างแผนการรักษาจัดฟันแบบใส invisalign
2. ทันตแพทย์จะสร้างแผนการรักษา 3 มิติสำหรับคนไข้แต่ละคน โดยใช้ Software Clincheck ของ Align Tech ตามข้อมูลฟันการจัดฟันแบบใส invisalign ของคุณ โดยแผนการรักษา 3 มิติ จะแสดงตำแหน่งสุดท้ายของฟัน
3. เครื่องมืออุปกรณ์จัดฟัน
4. ทันตแพทย์จะมอบอุปกรณ์จัดฟันแบบใส invisalign ให้คุณจำนวนหนึ่ง (ตามปกติแล้วจะมี 3-4 เซ็ตในแต่ละครั้ง) ซึ่งคุณจะต้องสวมทุกวัน และเปลี่ยนทุก ๆ สองสัปดาห์โดยประมาณ
5. พบทันตแพทย์ทุก ๆ 6-8 สัปดาห์โดยประมาณ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการรักษาและรับอุปกรณ์จัดฟันแบบใส invisalign ชุดถัดไป
6. ยินดีด้วย! ตอนนี้คุณ จัดฟัน Invisalign เสร็จแล้ว ! อย่าลืมดูแลรอยยิ้มที่ดูดีกว่าเดิมด้วยการสวมรีเทนเนอร์และเพื่อรักษารูปฟันเอาไว้ไม่ให้เลื่อนหรือเปลี่ยนทิศทางจากเดิม
1. พบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อทำการปรึกษาการจัดฟันใส
2. ทันตแพทย์จะทำการตรวจประเมินทั้งนอกช่องปาก ในช่องปาก function เช่น การยิ้ม การกลืน รวมถึงการ x-ray และวางแผนการรักษาที่เหมาะกับเคสนั้น ๆ
3. ทันตแพทย์จะส่งคนไข้เคลียร์ช่องปากเบื้องต้น เช่น การอุดฟัน การขูดหินปูน การผ่าฟันคุด การรักษารากฟัน
4. เมื่อเคลียร์ช่องปากเสร็จ จะทำการแสกนฟัน 3 มิติด้วยเครื่องแสกนชนิด iTero
5. ทันตแพทย์จะวางแผนการเคลื่อนฟัน
6. เมื่อทันตแพทย์วางแผนการเคลื่อนฟันเสร็จ จะนัดคนไข้ เพื่อที่คนไข้ทราบถึงการเคลื่อนฟัน จำนวนชิ้นเครื่องมือ และรูปฟันเมื่อจัดเสร็จ
เบื้องต้นทันตแพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันในระหว่างจัดฟันใส รวมถึงวิธีการดูแลกับคนไข้ทุกเคสหลังทำการรักษา โดยมีข้อปฏิบัติหลักๆ ดังนี้
• หมั่นรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน ด้วยการแปรงฟันร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
• ใส่ชุดอุปกรณ์จัดฟัน invisalign 20-22 ชั่วโมง/วัน ก่อนรับประทานอาหาร ถอดชุดจัดฟันใส invisalign ทุกครั้ง
• พบทันตแพทย์ตามที่นัดหมายทุกครั้ง และปฏิบัติตามแผนการรักษาที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
1. ไม่ต้องอดอาหาร เพราะสามารถถอดออกในช่วงรับประทานอาหารและแปรงฟันได้
2. ช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพฟันจากการจัดฟันที่ทำให้ฟฟันบีบตัวหรือขยายออกจากกัน
3. สะดวกกว่าการจัดฟันแบบเหล็กจัดฟันทั่วไป เพราะถูกออกแบบมาให้ไม่บาดเหงือกและกระพุ้งแก้ม
4. รู้สึกมั่นใจ เหมือนไม่จัดฟัน เพราะเป็นการจัดฟันแบบใส
5. ไม่ยุ่งยาก ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ออกแบบครั้งเดียว และทำชุดเครื่องมือจัดล่วงหน้าได้ครบ ไม่ต้องปรับบ่อยๆ
1. เนื่องจากตัวเครื่องมือสามารถถอดเข้าถอดออกได้ ดังนั้น ฟันจะเคลื่อนก็ต่อเมื่อคนไข้ใส่. โดยทั่วไปควรใส่เครื่องมือ 22 ชั่วโมง/วัน
2. ราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป ราคาจัดฟันแบบใส มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 79,000-179,000 บาท
